ตามรอยพระบาทพระพุทธบาทอภิบาลพระสงฆ์อาพาธ
พระพุทธเจ้าทรงพยาบาลภิกษุอาพาธ

สมัยนั้น ภิกษุอาพาธด้วยโรคท้องเสีย เธอนอนจมกองปัสสาวะ อุจจาระตนเองอยู่ ขณะนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้า มีท่านพระอานนท์เถระตามเสด็จ เที่ยวตรวจเสนาสนะไปยังที่ยู่ของพระภิกษุนั้น ทอดพระเนตรเห็นเธอนอนจมกองปัสสาววะ อุจจาระตนเองอยู่ จึงเสด็จเข้าไปหา ตรัสถามว่า “ดูก่อนภิกษุ! เธออาพาธด้วยโรคอะไร ?”
ภิกษุนั้นกราบทูลว่า “โรคท้องเสีย พระเจ้าข้า!”
“ภิกษุผู้พยาบาลเธอไม่มีหรือ?”
“ไม่มี พระเจ้าข้า”
“เพราะเหตุไรเล่า ภิกษุทั้งหลายจึงไม่พยาบาลเธอ ?”


“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ! ข้าพระองค์ไม่ทำประโยชน์แก่ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้น ภิกษุทั้งหลายจึงไม่พยาบาลข้าพระองค์”
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสเรียกพระอานนท์มาสั่งว่า “ดูก่อนอานนท์! เธอจงไปนำน้ำมา เราจะอาบน้ำให้ภิกษุนี้”
พระอานนท์รับพุทธดำรัสแล้ว จึงนำน้ำมา

พระพุทธเจ้าทรงรดน้ำ พระอานนท์ทำความสะอาด พระผู้มีพระภาคทรงจับทางศีรษะ พระอานนท์ยกทางเท้าให้ภิกษุนั้นนอนบนเตียง
ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคทรงเรียกประชุมภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุการณ์นั้น ตรัสถามว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! มีภิกษุไข้อยู่ในวิหารโน้นมิใช่หรือ?”
“มีพระเจ้าข้า!”
“เธออาพาธด้วยโรคอะไร”
“ด้วยโรคท้องเสีย พระเจ้าข้า”
“มีใครพยาบาลภิกษุนั้นหรือเปล่า”
“ไม่มีพระเจ้าข้า!”
“ทำไมเล่า ภิกษุทั้งหลายจึงไม่พยาบาลภิกษุนั้น”
“ภิกษุทั้งหลายไม่พยาบาลเธอ เพราะเธอไม่ทำประโยชน์ แก่ภิกษุทั้งหลาย พระเจ้าข้า!”


“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! มารดาบิดาผู้จะพึงพยาบาลพวกเธอก็ไม่มี ถ้าเธอไม่พยาบาลกันเอง ใครเล่าจัดพยาบาล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! ผู้ใดจะพยาบาลเรา ก็พึงพยาบาลพระภิกษุไข้ ถ้ามีอุปัชฌายะ อุปัชฌายะพึงพยาบาลเธอตลอดชีวิตจนกว่าจะหาย ถ้ามีสัทธิวิหาริก สัทธิวิหาริกพึงพยาบาลเธอตลอดชีวิตจนกว่าจะหาย ถ้ามีอันเตวาสิก อันเตวาสิกพึงพยาบาลเธอตลอดชีวิตจนกว่าจะหาย ถ้ามีภิกษุร่วมอุปัชฌายะ ภิกษุร่วมอุปัชฌายะพึงพยาบาลเธอตลอดชีวิตจนกว่าจะหาย ถ้ามีภิกษุร่วมอาจารย์ ภิกษุร่วมอาจารย์พึงพยาบาลเธอตลอดชีวิตจนกว่าจะหาย ถ้าไม่มีอุปัชฌายะ อาจารย์ สัทธิวิหาริก อันเตวาสิก ผู้ร่วมอุปัชฌายะ หรือผู้ร่วมอาจารย์ สงฆ์พึงพยาบาลเธอ ถ้าไม่พยาบาลต้องอาบัติทุกกฏ”